วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Tomita Farm(โทมิตะ ฟาร์ม)

18 July 2013 โทมิตะ ฟาร์ม

วันนี้ตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้า เพื่อพาที่บ้านไปถ่ายภาพโทมิตะฟาร์มยามเช้า ถ้าถ่ายตอนสาย จะพบกับมหาชนคนท่องเที่ยว แล้วจะทำให้ไม่สามารถเก็บภาพยามเช้าที่ไม่มีใครเลยได้ เมื่อมาถึงเป็นไปอย่างที่คาดครับ ไม่มีคนเลย สามารถเก็บภาพได้มาก และด้วยความที่ส่วนใหญ่เป็นลาเวนเดอร์สีฟ้าอมม่วง ทำให้ได้ความรู้สึกที่สดชื่นด้วย





หลังจากเก็บภาพได้สักระยะ พี่สาวบอกให้กลับที่พัก เนื่องจากทางที่พักจะเสิร์ฟอาหารเช้าในเวลาประมาณ 7.30 น. และอาหารเย็นตอน 18.30 น. และจะเก็บในเวลาประมาณ 8 โมง ถ้าเราไม่รับให้บอกเขาล่วงหน้าด้วยนะครับ เพื่อที่เขาจะได้ไม่เตรียมวัตถุดิบ(ญี่ปุ่นถือเรื่องมารยาทเป็นสำคัญนะครับ^_^)


หลังจากที่ทานอาหารอิ่มและอร่อยไปเรียบร้อย ผมย้อนกลับไปที่โทมิตะฟาร์มอีกครั้งเพื่อเยี่ยมชมฟาร์อย่างเต็มรูปแบบ

การเดินทางมาที่โทมิตะฟาร์มนี้ไม่จำเป็นต้องเช่ารถขับมาก็ได้ครับ สามารถเดินทางมาได้ด้วยรถไฟสาย Lavender Expess จากซัปโปโระมาที่ฟุราโนะ แล้วลงที่สถานี Lavender Batake แล้วเดินขึ้นมาที่ฟาร์มได้เลย แต่ถ้ามาด้วยวิธีนี้จะชมสวนได้ไม่มาก บางสวนที่สวย ๆ ก็ไม่สามารถเข้าไปถึงได้ด้วยรถไฟครับ

และยังสามารถมาได้ด้วย Day trip ที่สามารถสอบถามได้ที่ทัวริสอินฟอร์เมชั่นของสถานีอะซาฮิกาวะ สำหรับ Day Trip นั้นจะเป็นแบบไปเช้า เย็นกลับ ซึ่งทั้ง 2 วิธีไม่เหมาะกับการพาผู้ใหญ่มาเที่ยวด้วย เพราะจะทำให้ท่านลำบากในการเดินทางและขึ้นลงรถครับ  เอาล่ะครับ กลับมาที่ฟาร์มกันต่อ ไม่น่าเชื่อครับว่าผมกลับไปทานอาหารแล้วย้อนกลับมา เวลาผ่านไปเพียงแค่ 40 นาทีโดยประมาณจะมีนักท่องเที่ยวมาเยอะมาก ช่องจอดรถบัสเต็มทุกช่องครับ ลานจอดรถก็เต็มชนิดที่เรียกว่าหาที่จอดค่อนข้างลำบาก ที่นี่ผมพบว่าผู้สูงอายุวัยเกษียรของญี่ปุ่นมักจะรวมตัวกันเป็นกลุ่ม แล้วสบายกล้อง DSLR แบบต่าง ๆ นัดกันมาเก็บภาพสวย ๆ ทั้งสอนเทคนิคการถ่าย บางคนไม่ใช่แค่สะพายกล้องเท่านั้น ทั้งเลนส์เองก็ยังสะพาย บางอันนี้ใหญ่มาก ชนิดที่ว่า ซูมหัวสิวกันยังได้เลย

 

ฟาร์มที่เปิดให้เข้าชมในฟุราโนะนั้น ส่วนใหญ่จะไม่เก็บค่าเข้าชมครับ อาจจะมีการเก็บค่าอุปกรณ์เช่น ค่ากระเช้าขึ้นชมวิวจากมุมสูงสุดของฟาร์ม เป็นต้น หรือบางแห่งอาจจะใช้ลักษณะขอรับเงินบริจาคเพื่อดูและรักษาสถานที่ และที่สำคัญที่สุดคือ ไม่ว่าจะเที่ยวในฟาร์มหรือในสวนแสดงดอกไม้ ห้ามเข้า ไปในเขตดอกไม้ ม่ว่าจะมีเส้นกั้นหรือไม่ก็ตาม เพราะเขาได้จัดทำช่องทางเดินชมไว้ให้แล้ว ผมเจอมาเยอะเลยครับในวันนี้ ที่นักท่องเที่ยวชาวไทย เดินเข้าไปถ่ายกัน ท่ามกลางดอกไม้ จนโดนคนญี่ปุ่นตำหนิ หลายคนอาจจะคิดว่า ไม่เป็นไร เขาไม่รู้หรอกว่าเรามาจากไหน เขาดูจากการแต่งตัว ท่าทางและมารยาท เขาก็ทราบแล้วล่ะครับว่าเรามาจากไหน สำหรับที่โทมิตะฟาร์มนั้น เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวนิยมไปมาก เนื่องจากที่นี่จะนำดอกไม้ที่ปลูกมาทำเป็นหัวเชื้อน้ำหอม กลิ่นต่าง ๆ แต่จากภาพของฟาร์มที่เห็นส่วนใหญ่จะเป็นกลิ่นลาเวนเดอร์ นอกจากจะทำหัวเชื้่อน้ำหอมแล้ว ที่นี่ยังมีร้านอาหารและร้านของฝาก ที่ล้วนแต่มีส่วนผสมของลาเวนเดอร์มากมาย เช่น ไอศครีมลาเวนเดอร์
ไอศครีมที่กลิ่นหอมและเย็นของดอกลาเวนเดอร์ เจลลี่ลาเวนเดอร์
น้ำลาเวนเดอร์ใส ๆ หยุ่น ๆ และเย็นชื่นใจ ลาเวนเดอร์โซดา(เวลาเปิดหันไปทางที่ไมมีคนนะครับ มันจะพุ่ง)
รสชาติหวาน ๆ มีกลิ่นหอม ๆ ของดอกลาเวนเดอร์ที่มาพร้อมกับความซ่า ของน้ำโซดา(ส่งลิงค์ไปเรียกเก็บค่าโฆษณาซะดีมั๊งเรา)เยอะแยะเลยครับ ทั้งยังมีเมล็ดลาเวนเดอร์ กาละบูรลาเวนเดอร์
และลาเวนเดอร์อีกหลายอย่าง เรียกว่าขนมาแทบทุกอย่างที่ใส่กลิ่นและส่วนประกอบลาเวนเดอร์ได้ครับ ไม่ใช่แค่นั้น ฟาร์มนี้ยังมีผลไม้ที่มีรสชาติหวานฉ่ำชื่นใจอย่างเมลอน และในร้านค้าด้านหน้ายังมีการนำเมลอนมาทำขนมให้ได้เลือกชิมเลือกซื้อกันอย่างมากมาย เพื่อให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของฟาร์ม มาชมภาพกันเลยดีกว่านะครับ เสร็จจากที่นี่จะไปต่ออีกที่นึง
















1 ความคิดเห็น:

  1. สวัสดีค่ะ อยากสอบถามว่า ฟาร์มเราเข้าไปได้ตั้งแต่กี่โมงคะ เราตื่นเช้าได้ค่ะ แค่ไม่อยากเจอคนเยอะ รถติด กะขับรถไปค่ะ ขอบคุณมากนะคะ

    ตอบลบ